ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการสร้างบ้านและการจัดการงบประมาณในการสร้างบ้าน

           แน่นอนว่างบประมาณในการสร้างบ้านของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่จะสร้างบ้านทั้งทีก็คงต้องให้คุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่ต้องเสียใช่ไหมคะ ดังนั้นการจัดเตรียมงบประมาณในการสร้างบ้าน จึงสำคัญไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างบริษัทสร้างบ้าน ค่าตกแต่งภายใน ค่าก่อสร้าง เพราะถ้าไม่จัดการให้ดีงบประมาณอาจจะบานปลายได้ ไปดูการเตรียมตัวจัดการงบประมาณในการสร้างบ้านกันค่ะ ซึ่งงบประมาณที่เราต้องเตรียมแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ

ค่าการก่อสร้างบ้าน ค่าใช้จ่ายตั้งแต่งานโครงสร้าง งานสถาปัตย์ฯ รวมถึงงานระบบไฟฟ้า งานระบบประปาและสุขาภิบาล เพื่อให้ได้บ้านหนึ่งหลังที่มีความแข็งแรง ใช้อยู่อาศัยได้ยาวนาน ตรงกับความต้องการของแต่ละคนในบ้านทั้งขนาดและพื้นที่ใช้สอย

ค่างานตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์ หรือ “งานอินทีเรีย” เป็นส่วนเติมเต็มให้บ้านเป็นบ้านอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ทั้งแบบลอยตัวและแบบบิวท์อิน รวมถึงผ้าม่าน และโคมไฟประดับตกแต่งต่างๆ ซึ่งงบตรงส่วนนี้จะมากน้อยขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้ ความพอใจและสไตล์ของแต่ละคน

ค่าสิ่งก่อสร้างรอบบริเวณและงานสวน งานที่ทำให้พื้นที่รอบบ้านสวยงามและสดชื่น ด้วยต้นไม้ใบหญ้าอันเขียวขจี และของตกแต่งต่างๆ ที่ถูกจัดวางอย่างประณีต รั้วล้อมรอบบ้านที่เป็นสไตล์เดียวกับบ้านบ่งบอกอาณาบริเวณและความปลอดภัยไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงบ่อปลาและสระว่ายน้ำที่ช่วยขับบรรยากาศอันรื่นรมย์

              นอกจากนี้ยังต้องดูเรื่องผู้รับสร้างบ้าน ราคาจะแตกต่างกัน การจะเลือกควรตัดสินใจจากประสบการณ์ในการทำงาน ฝีมือ รวมถึงความละเอียดประณีตและความครบถ้วนสมบูรณ์แบบองค์รวม ซึ่งจะมีผลต่อคุณภาพผลงานที่จะออกมาเป็นบ้านหนึ่งหลังของเรา จะเห็นว่างบประมาณที่ต้องเตรียมนั้นจะแปรผันแตกต่างไปตามแต่ละปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ขนาดพื้นที่ใช้สอย รูปแบบและความซับซ้อนของบ้าน วัสดุที่เลือกใช้ รวมถึงสไตล์ความชอบของแต่ละคนอย่าลืมบริหารงบประมาณกันให้ดีนะคะ

แหล่งที่มา scgbuildingmaterials.com

เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน พาไปดูข้อควรพิจรารณาในเลือกบริษัทรับสร้างบ้านแบบไม่ผิด

สำหรับผู้ที่ต้องการจะสร้างบ้าน สิ่งสำคัญที่ควรรู้เพิ่มเติมจากการก่อสร้างบ้านหรือการออกแบบบ้าน กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้าน สถาปนิกและมัณฑนากรที่จะมาช่วยสร้างฝันของคุณให้เป็นจริงแล้ว การเลือกบริษัทสร้างบ้านก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ควรใส่ใจในการเลือก ถ้าเลือกไม่ดีอาจนำปัญหา ความวุ่นวาย และเรื่องยุ่งยากมากมายตามมาให้เจ้าของบ้านปวดหัวในภายหลังได้ค่ะ ไปดูข้อควรพิจรารณาในเลือกบริษัทรับสร้างบ้านกันค่ะ

1.บริษัทรับสร้างบ้านที่ดีต้องมีคุณภาพ

เจ้าของบ้านควรศึกษารายละเอียดดังกล่าวของบริษัทที่จะเลือกว่ามีทีมงานสถาปนิกและวิศวกรที่เชี่ยวชาญหรือไม่ เลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างเป็นอย่างไร มีเจ้าของบ้านบางรายที่ไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดในเรื่องวัสดุ เทียบราคาค่าก่อสร้าง เมื่อเห็นว่าบริษัทใดเสนอราคาต่ำกว่าก็ตัดสินใจเลือกเลย ในที่สุดก็ได้บ้านที่ใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐาน ทำให้มีปัญหาตามมามากมาย

2. ต้องมีแบบบ้านหลากหลายดีไซน์

โดยปกติบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพจะมีแบบบ้านไว้ให้เจ้าของบ้านเลือกได้หลายแบบ เจ้าของบ้านเพียงแค่คิดว่าต้องการบ้านแบบไหน พื้นที่ใช้สอยเท่าไหร่ ต้องการแบ่งพื้นที่ภายในอย่างไร เพียงเท่านี้สถาปนิกของบริษัทก็จะนำเสนอแบบบ้านให้เจ้าของบ้านได้เลือก เจ้าของบ้านซึ่งมีความต้องการอยู่ในใจแล้วเมื่อเห็นแบบบ้านที่ตรงใจหรือใกล้เคียงกับที่คิดไว้ก็จะเลือกได้ง่ายขึ้น

3. ต้องมีราคาที่เหมาะสม

ผู้รับเหมารายย่อยสามารถสร้างบ้านได้ในราคาที่ต่ำกว่าบริษัทรับสร้างบ้าน แต่อยากให้เจ้าของบ้านคิดว่า เมื่อตกลงสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านนั้น ราคาบ้านจะคงที่ ณ วันเซ็นสัญญาตกลงกันไว้เท่าไหร่ก็ราคาเท่านั้นจนกว่าบ้านจะเสร็จ

4. ตรงต่อเวลาตามสัญญา

บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพจะแสดงขั้นตอนการก่อสร้างว่าเริ่มงานเมื่อไหร่และเสร็จเมื่อไหร่ หากงานก่อสร้างบ้านมี 10 งวด ก็จะรู้ระยะเวลาการก่อสร้างของแต่ละงวดล่วงหน้าพร้อมกับวันกำหนดสร้างเสร็จ

อย่าลืมนำเทคนิคทั้ง 4 ข้อ ไปเป็นตัวช่วยในการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านนะคะ รับรองว่าจะช่วยให้ได้บริษัทสร้างที่ถูกใจ ถูกงบประมาณ ได้บ้านคุณภาพตามที่ฝันอย่างแน่นอนค่ะ

เผยเทคนิค ช่วยลดงบประมาณสร้างบ้าน ไม่ให้งบบานปลาย

            งบสร้างบ้านเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างบ้านด้วยยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องมีเงินเย็นสักก้อนโต เพื่อนำมาสร้างบ้านของตนเองให้สำเร็จ แต่บ่อยครั้งที่การสร้างบ้านมักมีปัญหางบบานปลาย วันนี้มีวิธีกาคุมงบในการสร้างบ้านแบบประหยัดมาฝากกันค่ะ

1. เลือกผู้รับเหมาหลากหลาย

ควรมองหาบริษัทสร้างบ้านหรือผู้รับเหมาหลากหลายเจ้าเพื่อเปรียบเทียบหาเจ้าที่ดีที่สุด ภายใต้งบประมาณ ประวัติการงาน ดูคุณภาพผลงานที่ผ่านมา อาจจะขอเบอร์ติดต่ออดีตลูกค้าที่ผ่านมาเพื่อตรวจสอบข้อมูลก็ได้ อย่ากลัวว่าจะเสียเวลามากเกินไปกับการคัดเลือกผู้รับเหมา ให้มองว่าเป้าหมายผู้ที่จะสร้างบ้านเรานั้น ต้องเป็นผู้รับเหมาที่เคารพการตัดสินใจเรา ควบคุมงบประมาณก่อสร้างได้ มีความน่าเชื่อถือ

2. เน้นเปิดโล่ง

บ้านขนาดเล็กควรเน้นสร้างสิ่งที่ต้องการใช้งานได้จริง แน่นอนว่าบ้านขนาดเล็กย่อมใช้ งบสร้างบ้าน ต่ำกว่าบ้านหลังโต แต่ถ้าหากเป็นครอบครัวขนาดใหญ่ ควรเน้นสร้างบ้านแบบโปร่งโล่ง เพื่อความยืดหยุ่นในการใช้สอยประโยชน์พื้นที่นอกจากนี้ ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ด้วย เช่น งานผนังภายใน, ประตู, ทางเดิน, สายไฟหรือท่อประปา เป็นต้น

3. เลือกสเปควัสดุที่จำเป็น

วิธีเลือกวัสดุที่จำเป็น อย่างอะไรที่อยู่ด้านในบ้าน ที่ไม่จำเป็นต้องโชว์ความสวยงาม อย่างโซนซักล้างหลังบ้าน อาจเลือกใช้อาจเทปูนเปือยธรรมดา หรือใช้หินธรรมชาติมาตกแต่ง แทนการปูกระเบื้อง ก็จะช่วยค่าใช้จ่ายไปได้

4. หาแหล่งวัสดุอุปกรณ์เองบ้าง

อาจมีข้าวของบางอย่างที่เราสามารถหาได้ในราคาที่ถูกกว่า หรือของที่ถูกใจเราได้มากกว่า เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น หากเปรียบเทียบแล้ว ของที่เราหาได้ถูกใจและราคาถูกกว่า เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยลด งบสร้างบ้าน ได้เช่นกัน

5. DIY เฟอร์นิเจอร์เลือกใช้

งานก่อสร้างมักจะมีของเสียเป็นวัสดุ ที่เราสามารถนำกลับมาใช้ในรูปแบบอื่นได้ จากความคิดสร้างสรรค์ของเราเอง เช่น นำไม้อัดเหลือใช้มาสร้างชั้นวางของ, เอากระเบี้องที่แตก มาวางเพิ่มลวดลายบนพื้นปูนหน้าบ้าน เป็นต้น

ก็เป็นวิธีเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถช่วยลดงบประมาณในการสร้างบ้านลงได้นะคะ เพียงรู้จักวิธีเลือก ตัดของไม่จำเป็น เท่านี้ก็สามารถเนรมิตสร้างบ้าน ราคาประหยัดได้อย่างง่ายดาย

พาไปดู ข้อควรเลี่ยงในการสร้างบ้าน เพื่อสร้างบ้านที่สมบูรณ์ที่สุด

               รูปแบบบ้านและที่อยู่อาศัยในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย หลากหลาย ซึ่งการเลือกสไตล์ของแบบบ้านขึ้นอยู่กับความชื่นชอบและรูปแบบการใช้งานของแต่ละคนเพื่อบ้านที่ออกมาตรงใจที่สุด และไม่มีปัญหาตามมาทีหลังใครกำลังมีแผนจะสร้างบ้านอยู่หรือไม่รู้ว่าจะสร้างบ้านบริษัทไหนดี ละก็ไปดูข้อควรเลี่ยงสำหรับการสร้างบ้านกันค่ะ

1. กะขนาดพื้นที่ไม่เหมาะกับแอร์ อาจจะเป็นเพราะอากาศที่ร้อนขึ้นทุกวัน จึงทำให้คนที่กำลังจะสร้างบ้านใหม่ คิดเรื่องการติดเครื่องปรับอากาศกันเป็นอันดับต้น ๆ แต่สิ่งที่มักทำพลาดกันบ่อย ๆ ก็คือ การกะขนาดห้องกับเครื่องปรับอากาศได้ไม่พอดีกัน โดยส่วนมากจะเป็นปัญหาเรื่องโครงสร้างของห้องหรือขนาดพื้นที่ที่กว้างมากเกินไป ทำให้เวลาติดเครื่องปรับอากาศก็จะให้ความเย็นได้ไม่ทั่วถึง เป็นเหตุให้เปลืองไฟไปเปล่าๆนะคะ

2. สร้างบ้านโดยคำนึงถึงอนาคต อย่างเช่นบ้านที่มีเด็กเล็ก หรือคนชราก็ควรจะเลือกสร้างห้องหรือโครงสร้างบ้านที่ดูปลอดภัย ไม่ต้องมีพื้นต่างระดับให้เสี่ยงอุบัติเหตุ หรือมีห้องนอนชั้นล่างเพื่อความสะดวก รวมไปถึงต้องมองยาวไปถึงอนาคต ว่าอาจจะต้องต่อเติมบ้าน หรือเราจะต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกหรือเปล่า เผื่ออนาคตอาจเปลี่ยนแปลงหรือต่อเติมบ้านได้ค่ะ

3. บ้านทึบเกินไป อย่างแรกที่เราไม่ควรพลาดเลยก็คือการออกแบบให้บ้านมีหน้าต่าง หรือติดกระจกที่กำแพงบ้าน ให้แสงส่องเข้ามาได้ จะได้เปิดรับลมให้บ้านในช่วงกลางวัน ให้บ้านได้ระบายอากาศ และความอับชื้นได้อีกทาง แต่ต้องไม่ลืมดูทิศทางของลมและแสงแดดให้ดีด้วยค่ะ

4. ตำแหน่งห้องนอนไม่เหมาะสม ห้องนอนควรจะต้องอยู่ในจุดที่ห่างไกลจากเสียงรบกวน ไม่อยู่ใกล้โรงจอดรถแต่ถ้าเป็นแบบบ้านชั้นเดียวควรเลือกตำแหน่งห้องนอนให้อยู่ลึกสุด เพื่อกันไม่ให้มีเสียงดังเล็ดลอดเข้ามารบกวนในขณะที่นอนหลับได้

5. ห้องครัวอยู่ผิดที่ผิดทาง ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดของห้องครัวควรจะเป็นพื้นที่ด้านหลังที่ติดกับโรงจอดรถ และอยู่ใกล้กับห้องรับประทานอาหาร เวลาที่ซื้อของเข้าบ้าน จะได้เดินเข้าทางหลังบ้าน วางของทุกอย่างไว้ในครัวก่อน แล้วค่อยแยกเก็บให้เป็นที่เป็นทาง สะดวกสบาย และเป็นการเลี่ยงการเดินหิ้วของเข้าออกผ่านห้องรับแขกด้วย

ใครกำลังวางแผนสร้างบ้านหรือไม่รู้บริษัทสร้างบ้านที่ไหนดีอยู่ ลองนำข้อควรเลี่ยงนี้ไปเป็นส่วนประกอบการพิจารณาสร้างบ้านและบอกกับบริษัทที่รับสร้างบ้านให้ดูนะคะ จะได้ออกแบบบ้านไม่พลาด ได้บ้านที่สวยงามน่าอยู่กันนะคะ

แนวคิดสร้างบ้านให้เย็น อยู่สบาย และประหยัดพลังงานเหมาะกับเมืองร้อน

          เรามักจะบ่นว่าอากาศร้อนขึ้นในทุกๆปี ไม่เว้นแม้แต่ภายในบ้านที่เราอาศัยอยู่ ทำให้เราหาวิธีการทำให้บ้านเย็นขึ้นโดยการติดตั้งเครื่องปรับอากาศซึ่งผลที่ตามมาคือค่าไฟที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งความร้อนจากการทำงานของเครื่องได้ส่งผลให้อากาศโดยรอบบ้านร้อนขึ้น ดังนั้นหากใครกำลังวางแผนจะมองหาบริษัทสร้างบ้าน มาสร้างบ้านให้หรือเลือกซื้อบ้านสักหลังเรามีแนวคิดสร้างบ้านให้เย็น อยู่สบาย มาฝากกันค่ะ

1. การวางตำแหน่งของห้องต่าง ๆ สามารถให้บริษัทสร้างบ้าน ออกแบบบ้านให้ไม่เจอแสงแดดโดยตรงสามารถทำให้บ้านเย็นได้ จึงต้องคำนึงถึงทิศทางของแดดและการวางตำแหน่งของห้องต่าง ๆภายในบ้านมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นการใช้วัสดุที่เหมาะสมจะช่วยลดอุณหภูมิและป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้

2. การเลือกวัสดุกันความร้อน การเลือกวัสดุก็มีส่วนสำคัญมากเช่นกัน บ้านที่ดีต้องไม่มีการสะสมความร้อนจากแสงแดด ความร้อนของบ้านจะมากหรือน้อย ก็ขึ้นอยู่กับการเลือกวัสดุในการสร้าง หรือ ต่อเติม การเลือกวัสดุในการสร้างจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เช่นกระเบื้องคอนกรีต กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ กระเบื้องดินเผา นำมาทาสีที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน

3. การถ่ายเทความร้อน ควรคำนึงถึงการจัดทิศทางของบ้านให้เหมาะสม มีทางลมเข้า-ออก จะช่วยให้อากาศถ่ายเทและเย็นสบายอยู่ตลอดเวลา บ้านจะได้ไม่ทำให้สะสมความร้อนไว้ในบ้านมากเกินไป

4. การจัดพื้นที่ต่าง ๆภายในบ้าน การจัดพื้นที่ในบ้านก็มีส่วนสำคัญ เช่น ห้องนั่งเล่นควรจะมีอากาศเย็นในตอนกลางวัน ห้องนอนควรมีอุณหภูมิที่ลดลงในเวลากลางคืน การแบ่งพื้นที่อย่างเหมาะสมช่วยให้ประหยัดค่าแอร์และค่าไฟฟ้า

5. ต้นไม้ การปลูกต้นไม้เอาไว้ในบริเวณบ้านจะให้ความร่มรื่น ให้ร่มเงา และช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้าน นอกจากนี้ หากมีพื้นที่รอบบ้านควรปลูกหญ้าหรือพืชคลุมดิน เพราะพืชคลุมดินจะดูดซับน้ำใต้ดินขึ้นมาแล้วระเหยออกทางใบ อุณหภูมิที่ผิวดินจึงเย็นลง

6. น้ำ สร้างแหล่งน้ำไว้รอบบ้าน อาทิ บ่อน้ำ สระน้ำ ช่วยคลายร้อนได้ เพราะเมื่อลมพัดผ่านน้ำ จะพาความเย็นจากน้ำเข้ามาสู่ตัวบ้าน

                ท่านเจ้าของบ้านหรือใครที่กำลังจะสร้างบ้านสามารถนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้กับบ้านของตัวเองได้นะคะ อย่างไรก็ตามนอกจากให้ความสำคัญกับการปรับลดความร้อนภายในบ้านให้กลายเป็นบ้านเย็นแล้ว ควรคำนึงถึงการช่วยลดอุณหภูมิให้แก่โลกของเราด้วย  เพื่อบ้านของเราจะได้น่าอยู่และร่มเย็นอย่างยั่งยืน ประหยัดไฟและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยนั่นเองค่ะ

คล้ายสงสัย สร้างบ้านเอง vs บ้านจัดสรร เลือกแบบไหนดี

             บ้านจัดสรร หรือ สร้างบ้านเอง แบบไหนดีกว่ากัน น่าจะเป็นคำถามแรกๆในใจของท่านที่กำลังเริ่มคิดที่จะมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเองใช่ไหมคะ เพราะใครๆ ก็อยากได้บ้านที่ดีและคุ้มค่าที่สุดอยู่แล้ว หากยังลังเลตัดสินใจไม่ได้วันนี้เรามาวิเคราะห์ปัจจัยที่จำเป็นต่อการตัดสินใจในระหว่าง ซื้อ หรือ สร้าง กันเลยค่ะ

งบประมาณการสร้างบ้าน - เป็นเรื่องแรกที่ต้องตัดสินใจสำหรับคนที่คิดจะมีบ้านกันเลยทีเดียวนะคะ แต่เราจะไม่สามารถฟันธงได้ว่าแบบใดมีราคาถูกหรือแพงมากกว่ากัน เพราะในกรณีที่สร้างบ้านเอง ราคาของบ้านจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัสดุ รวมถึงราคาที่ดินสำหรับปลูกสร้างด้วย เปรียบเทียบกันบ้านจัดสรรจะสามารถคุมงบประมาณได้ง่ายกว่าเพราะทางโครงการได้ตั้งราคาบ้านที่รวมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วอย่างชัดเจน ทำให้งบไม่บานปลายเหมือนการสร้างบ้านเอง

ความถูกใจ - ข้อนี้แน่นอนว่าสร้างบ้านเองย่อมถูกใจเจ้าของบ้านมากกว่าเพราะเป็นคนเลือกทำเล แบบบ้าน และวัสดุได้เองทั้งหมด สามารถสร้างบ้านตามแบบเก๋ๆได้ตามใจชอบ ซึ่งบ้านจัดสรรจะเป็นแบบบ้านเดียวมาตรฐานเหมือนกันหมด รวมถึงวัสดุตามที่โครงการกำหนด

ขั้นตอนการก่อสร้าง -  ถ้าท่านตัดสินใจที่จะสร้างบ้านตามแบบเองเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญก็คือต้องมีเวลาในการดูแลขั้นตอนต่างๆในการก่อสร้างอย่างละเอียด รวมถึงต้องหมั่นไปตรวจดูแลการก่อสร้างอยู่เรื่อยๆ แต่หากเลือกที่จะซื้อบ้านจัดสรรในโครงการแล้วล่ะก็แต่รอวันเซ็นตรวจรับบ้านใหม่ของท่านเท่านั้นค่ะ

ความปลอดภัย - บ้านจัดสรรในโครงการส่วนมากมักจะมี รปภ. คอยตรวจดูแลทางเข้าหมู่บ้านหรือมีเวรยามระหว่างวันบางโครงการมีการติดตั้ง CCTV รอบหมู่บ้าน ส่วนการสร้างบ้านเองก็เป็นที่แน่นอนว่าเราต้องดูแลตัวเอง โดยอาจจะต้องทำกำแพงให้สูง หรือต้องหากล้องวงจรปิดมาติดค่ะ

การกู้ - โดยปกติหากคุณตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรรใหม่ในโครงการต่างๆ ท่านอาจได้รับโปรโมชั่นที่ทางโครงการนั้นเข้าร่วมกับแบงก์ต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากการสร้างบ้านเองที่ขาดโอกาสในส่วนนี้ไป

สรุปแล้วการสร้างบ้านเองก็จะได้บ้านที่ถูกใจกว่า ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความต้องการในการใช้สอย งบอาจจะมีการบานปลายและต้องมีเวลาในการหมั่นมาตรวจดูแลการก่อสร้างอยู่เรื่อยๆ ส่วนซื้อบ้านจัดสรรจะเหมาะสำหรับเจ้าของบ้านที่ไม่มีเวลา ตัดปัญหาในการหาสถาปนิกกับผู้รับเหมาทิ้งงาน แต่อาจจะไม่ได้แบบบ้านอย่างที่ถูกใจค่ะแต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็สุดแล้วแต่ความชอบและเหตุผลส่วนตัวของแต่ละท่านนะคะ

ข้อควรรู้ก่อนสร้างบ้าน ลดปัญหาการสร้างบ้านน่าปวดหัว

             การตัดสินใจสร้างบ้านสักหลังมักจะมีปัญหาตามมาไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะกับผู้รับเหมาสร้างบ้าน ที่เราอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างในเรื่องของการเก็บงานไม่ดี ทำงานช้ากว่ากำหมด หรืออยู่ๆก็ชิ่งหนีไปซะงั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาน่าปวดหัวเหล่านั้น วันนี้เลยขอนำข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจจ้างผู้รับเหมาสร้างบ้าน ว่าต้องคำนึงถึงอะไรบ้างมาฝากกันค่ะ

เลือกผู้รับเหมาที่เป็นบริษัทหรือธุรกิจรับสร้างบ้าน เพราะต้องอาศัยวิศวกร สถาปนิกและทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพจากบริษัทรับเหมาสร้างบ้านช่วยเพิ่มความมั่นใจในฝีมือได้ และยังสามารถดูผลงานที่ผ่านมาของบริษัทได้ด้วยว่าเป็นอย่างไร สุดท้ายคือมีที่ตั้งชัดเจนเป็นหลักแหล่ง

สัญญาจ้างควรเป็นหนังสือเสมอ การสร้างบ้านเต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย การเซ็นต์สัญญาต่างๆ จึงต้องเป็นลายลักษณ์อักษรจะช่วยป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะตามมาได้

BOQ (Bill of Quantity) เป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นจากแบบพิมพ์เขียวก่อสร้างอย่างละเอียด โดยจะระบุค่าจ้างและรายการค่าวัสดุในส่วนต่างๆ อย่างละเอียด ใช้เป็นหลักฐานในการตรวจสอบความเรียบร้อยของงาน ว่าเป็นไปตามที่ได้ระบุไว้หรือไม่

ป้องกันการทำงานล่าช้า ควรทำสัญญาตั้งแต่เนิ่นๆ ระบุในข้อตกลงว่า ถ้างานล่าช้ากว่ากำหนดก็อาจจะคิดค่าปรับเป็นรายวันหรือสามารถเลิกจ้างได้

จ้างมืออาชีพหรือบริษัทตรวจสอบบ้าน ก่อนทำการส่งมอบ เพราะในมุมของเราอาจจะมองเห็นเพียงเปลือกนอกที่สวยงามของบ้าน อาจจะดูไม่ละเอียดมากทำให้มองข้ามจุดที่เป็นปัญหาได้ ทางที่ดีควรจ้างมืออาชีพหรือบริษัทตรวจสอบบ้านมาช่วยตรวจสอบจะดีกว่าค่ะ

การจะมีบ้านสักหลังนั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากเราเตรียมตัวอย่างดี มีการเรียนรู้ ศึกษาข้อมูลและรายละเอียดในด้านต่างๆ อย่างครบถ้วน ก็จะได้มีบ้านสำหรับอาศัย และพักผ่อนกับครอบครัว ได้อย่างอบอุ่นแล้วค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก rabbitfinance.com